การฟอกหนังก่อนนำไปใช้ผลิตเครื่องหนัง เป็นกระบวนการที่ใช้สารละลายจากธรรมชาติและสารเคมี นำมาปรับปรุงสภาพหนังดิบ (Hide) ให้เป็นหนังแท้ (Leather) ที่มีคุณสมบัติทนทานใช้งานได้นาน พร้อมจะนำไปใช้ตัดเย็บเป็นเครื่องหนังคุณภาพสูง
กระบวนการฟอกหนังแบ่งเป็น 2 ประเภทตามสารละลายที่ใช้ฟอกหนัง ได้แก่ สารแทนนินหรือสารฟอกหนังที่ได้มาจากธรรมชาติ (Vegetable tanning) หรือใช้สารเคมีกลุ่มโครเมี่ยม (Mineral tanning)
หนังสัตว์ที่นำมาใช้งาน เช่น หนังวัว โดยส่วนใหญ่จะเป็นผลพลอยได้จากอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ หนังดิบที่ได้จะนำมาเข้ากระบวนการฟอกหนัง เริ่มต้นด้วยการแช่หนังดิบในถังที่มีส่วนผสมของน้ำและสารแทนนินเป็นเวลาหลายวัน แล้วนำออกมาผึ่งให้แห้ง ขัดและเคลือบผิว เพื่อทำให้หนังแท้มีอายุการใช้งานทนทาน รวมทั้งมีคุณสมบัติยืดหยุ่น นุ่มนวล และมีสีสันสวยงาม
การฟอกหนังด้วยสารธรรมชาติจากพืช (Vegetable Tanning)
กระบวนการฟอกหนังแบบออร์แกนิค ใช้สารฟอกหนังหรือแทนนินที่ได้มาจากธรรมชาติ สารฟอกหนังเหล่านี้พบมากในต้นโอ๊ก Quebracho เกาลัด และมิโมซ่า ซึ่งจะช่วยสร้างเฉดสีหนังให้มีลักษณะเฉพาะ กระบวนการนี้มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการฟอกหนังด้วยเคมี และใช้เวลานานประมาณ 30 – 60 วัน ข้อดีของการฟอกหนังแบบออร์แกนิค จะได้หนังที่สีสันสวยงามและมีความทนทานสูง
หนังแท้ฟอกย้อมแบบออร์แกนิค เมื่อผ่านการใช้งานไปนานๆ จะมีลักษณะที่เปลี่ยนไปจากหนังผลิตใหม่ ที่เรียกว่าพาทินา (Leather Patina) ผสมผสานสีสันผ่านกาลเวลาและลักษณะการใช้งานเครื่องหนังชิ้นนั้น เกิดเป็นลักษณะ“พาทินา”เฉพาะตัว ซึ่งเป็นที่นิยมในตลาดของกลุ่มเครื่องหนังพรีเมี่ยม ให้คุณค่าว่าผลิตภัณฑ์เครื่องหนังมีความสวยงามมากขึ้นตามอายุ และเป็นที่ต้องการมากกว่าหนังใหม่ๆ ที่ยังไม่มีลักษณะของพาทินาเกิดขึ้น
สารฟอกหนังหรือผงแทนนินที่ได้จากพืช เช่น เปลือกของต้นมิโมซ่าหรือเกาลัด สารฟอกหนังแต่ละอย่างจะใช้ได้ดีกับหนังสัตว์แต่ละชนิดกัน ผู้ผลิตจะเลือกใช้ผงแทนนินตามคุณสมบัติของหนังฟอกย้อมที่ต้องการ หนังที่ได้จะไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ มีสีสวยงามแบบธรรมชาติ คงทนแข็งแรงมากขึ้น พร้อมกับมีผิวสัมผัสที่นุ่มนวล ยืดหยุ่น กระบวนการนี้จะต้องใช้เวลานาน แต่เป็นวิธีการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
การฟอกหนังด้วยแร่ธาตุ (Chrome Tanning)
เป็นกระบวนการฟอกหนังด้วยเคมี มีโครเมียมเป็นสารประกอบหลัก เป็นกระบวนการฟอกหนังที่มีประสิทธิภาพสูง โดยใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมง ก็จะได้หนังที่ฟอกย้อมเสร็จสมบูรณ์ นำไปผึ่งจนแห้งพร้อมใช้งาน หนังที่ฟอกย้อมด้วยแร่ธาตุ จะมีสีสันสวยงามคงทน ตลอดอายุการใช้งาน

อุตสาหกรรมการฟอกหนังเกือบ 85% ของหนังฟอกย้อม ใช้กระบวนการฟอกด้วยเคมี เริ่มจากการแช่หนังในถังที่มีสารแทนนิน ซึ่งมีองค์ประกอบโครเมียมซัลเฟต เทคนิคการฟอกหนังด้วยเคมี เริ่มนำมาใช้เมื่อปลายศตวรรษที่ 19 วิธีการนี้ใช้เวลาน้อยกว่าการฟอกหนังด้วยพืช โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง เหมาะสำหรับหนังแท้ที่ต้องการความแข็งแรงและทนต่อการฉีกขาดสูง หนังฟอกย้อมมีสีสันสดใส ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา